✨️วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป ณ ศาลาการเปรียญวัดศรีนวล
วัดศรีนวล ร่วมกับ ทายกทายิกา ผู้นำชุมชน พุทธศาสนิกชน ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณี บุญเดือนเก้า “ข้าวประดับดิน” ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี ตามฮีตสิบสองคองอีสาน
✨️นายสมบัติ แสนทวีสุข นายกเทศมนตรีตำบลอ่างศิลา พร้อมด้วย นายวุฒินันท์ ผิวขาว ประธานสภาเทศบาลตำบลอ่างศิลา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลอ่างศิลา ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน/ผู้นำชุมชน พุทธศาสนิกชน ทายกทายิกา และประชาชนในพื้นที่
ร่วมทำบุญตักบาตร ถวายภัตราหาร จตุปัจจัยแด่พระภิกษุสามเถร เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณี บุญเดือนเก้า “ข้าวประดับดิน” ให้คงอยู่คู่ชุมชน
✅️พิธีกรรมของ ประเพณีบุญข้าวประดับดิน
✨️การทำบุญข้าวประดับดินนั้นจะทำกันในช่วงเช้ามืด ประมาณตีสาม – ตีสี่ ของวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ซึ่งหมายความว่าจะต้องเตรียมจัดอาหารคาวหวานไว้ตั้งแต่ตอนเย็นของวันแรม 13 ค่ำเดือน 9 นอกจากอาหารคาวหวานแล้วยังมี หมากพลู บุหรี่ โดยจะแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ✅️ส่วนหนึ่งสำหรับครอบครัว ✅️ส่วนที่สองแบ่งญาติพี่น้องเรือนเคียง ✅️ส่วนที่สามอุทิศให้กับญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ✅️และส่วนที่สี่นำไปถวายพระสงฆ์.
‼️สำหรับส่วนที่สามที่จะอุทิศให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้วนั้นจะห่อน้อยกว่าส่วนอื่น มีวิธีการห่อคือ ใช้ใบตองห่อขนาดเท่าฝ่ามือ ยาวให้สุดซีกของใบตองที่ตัดมา อาหารคาวหวานนั้นจัดใส่ห่ออย่างละเล็กละน้อย ห่อข้าว อาหาร คาวหวานด้วยใบตอง แล้วใช้ไม้กลัดหัวท้าย และตรงกลาง เราก็จะได้ห่อข้าวน้อย ที่มีลักษณะยาวๆ ตามซีกของใบตอง อีกหนึ่งห่อ เป็นหมากพลู บุหรี่ และเมี่ยงคำ นำมาห่อในลักษณธเดียวกัน จะได้เห็นห่อหมากพลู หลังจากนั้นนำทั้งสองมามัดเป็นคู่ และไปรวมกันเป็นพวงอีกที โดย 1 พวง จะใส่ห่อหมากห่อพลูจำนวน 9 ห่อ ห่อข้าวน้อยที่เรานำไปวาง หมายถึง การนำไปอุทิศให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว รุ่งสางราวๆ ตี 3-4 ของเช้าวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 แต่ละครัวเรือนจะนำเอาห่อข้าวน้อยที่เตรียมไว้ไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่ ตามทางเดิน หรือเจดีย์ ตามโบสถ์ ริมกำแพงในวัด ภาษาอีสานเรียกว่าการยาย (ย่ายหมายถึง วางเป็นระยะๆ) จะทำกันแบบเงียบๆ ไม่มีการตีกลอง ตีฆ้องแต่อย่างใด ระหว่างที่ยายห่อข้าวน้อย ก็จะมีการจุดธูปเทียน
✨️เพื่อบอกให้ดวงวิญญาณมารับส่วนกุศลที่ได้อุทิศไปให้ บางคนก็บอกเฉยๆ ไม่ได้จุดเทียนก็มี หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันกลับบ้าน เพื่อเตรียมอาหารมาใส่บาตร ถวายพระในตอนเช้า พระสงฆ์มีการแสดงธรรมเทศนา เกี่ยวกับอานิสงฆ์ของการทำบุญข้าวประดับดินให้ฟัง และมีการกรวดนำทำบุญ ตามประเพณีของพุทธศาสนา ที่ทำกันทั่วๆไป
ประวัติความเป็นมา
ตั้งแต่สมัยพุทธกาล มีเรื่องเล่าไว้ในพระธรรมบทว่า ญาติของพระเจ้าพิมพิสารกินของสงฆ์ เมื่อตายไปจึงไปเกิดในนรก พระเจ้าพิมพิสารถวายทานแด่พระพุทธเจ้าแล้วไม่ได้อุทิศให้ญาติที่ตายไป พอตกกลางคืนเหล่าญาติของพระเจ้าพิมพิสารที่ตายไปมาปรากฎตัวเปล่งเสียงร้องน่ากลัวบริเวณพระราชนิเวศ
✨️รุ่งเช้าพระเจ้าพิมพิสารจึงได้รีบไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระองค์จึงบอกเหตุให้ทราบว่าญาติที่ไปตกอยู่ในภูมินรก ต้องการได้รับส่วนกุศล จึงได้ก่อเกิดการทำบุญข้าวประดับดินขึ้นมา เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ญาติที่ตายไปแล้ว และถือเป็นประเพณีที่ต้องทำมาเป็นประจำ ไม่ใช่แค่เหล่าญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่บรรดาวิญญาณเร่รอน ก็สามารถรับส่วนกุศลนั้นไปด้วย. ✌️ประเพณีคนลาวและไทยอีสาน มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า กลางคืนของเดือนเก้า หรือ ทำในวันแรมสิบสี่ค่ำ เดือนเก้า เป็นวันที่ประตูนรกเปิด ยมบาลจะปล่อยให้ผีนรกออกมาเยี่ยมญาติในโลกมนุษย์ ในคืนนี้คืนเดียวเท่านั้นในรอบปี ดังนั้นจึงพากันจัดห่อข้าวไว้ให้แก่ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้ว ถือว่าเป็นงานบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้ว.
☎️ที่มาของข้อมูล : https://www.paknamubonclub.com/ประเพณี/บุญข้าวประดับดิน
☎️สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดเทศบาล โทรศัพท์ ☎️045-251681,045-251682,045-251684 กด 3
งานป้องกันเทศบาลตำบลอ่างศิลา โทรศัพท์ 045-251683